EN206 แบบสอบผ่าน (Save มาจากบอร์ดเก่า)

[narongyu]

ต้องขออภัยและอนุญาต ท่านเจ้าของข้อเขียนนี้(พี่เอก สมาชิกจากบอร์ดเก่า)และท่าน Admin
ที่ผมได้ถือวิสาสะ เอากระทู้ของพี่เอกมา Share ที่บอร์ดนี้ครับ
(เคย copy เอาไว้อ่านน่ะครับ) เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากๆ และหาได้ยากครับ
หากไม่เหมาะสมประการใด ให้ท่าน Admin ลบทิ้งได้ครับ

ส่วนตัวผมเองลงวิชานี้ไว้เทอมนี้เหมือนกัน แต่ว่ายังไม่ได้ฝึกเขียนเลยสักครั้ง
คงต้องลงใหม่เทอม 1/54 ซะละมั๊ง T_T

[narongyu]

--- สวัสดีครับน้องๆ.. (เพราะพี่อายุมากมายแล้ว.. T_T) เรียกพี่เอกนะ.. รหัส 49 อะ.. ไม่จบซักกะที.. และแล้วพี่ก็เดินออกมาจากห้องสอบ EN206 ด้วยอาการเหม่อลอย.. คล้ายๆ วิญญาณมันหลุดลอยไป.. พี่สอบ EN206 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังจากครั้งที่แล้วติดงานต่างจังหวัด.. แต่ก็พยายามอ่านและฝึกเขียนเวลามีเวลาว่าง.. ข้อสอบค่อนข้างเร้าใจ.. ไม่มีคำศัพท์ช่วยเลยเนอะ.. ทำด้วยอาการงงๆ ทำไปงงไป แต่ก็ยังอุตส่าใช้เวลาทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า(หรอ).. พอออกจากห้องสอบถึงได้รู้ว่าตัวเองเขียนศัพท์ผิดไปเยอะอยู่เหมือนกัน ---

[narongyu]

--- สำหรับพี่.. พี่ว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ประมาทไม่ได้เลยอะ.. ใครที่คิดว่าตัวเองแน่.. ผ่าน EN305 EN405 รอบเดียว.. แล้วจะผ่าน EN206 ฉลุยเหมือนกันนั้น.. ขอให้ทบทวนใหม่.. อย่าได้ประมาทล่ะ.. จากการรวบรวมข้อมูลมา (ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดอะนะ..) วิชานี้มีข้อสอบทั้งหมด 4 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นการเขียนเชิงบรรยาย หรือ Narrative writing 2 ข้อ และ การเขียนเชิงพรรณนา หรือ Descriptive writing อีก 2 ข้อ.. ก่อนจะทำข้อสอบพี่เองก็เกิดอาการสับสันอยู่เหมือนกันว่า อันไหนบรรยาย อันไหน พรรณนา นั่งคิดอยู่พักนึงก็คิดออก.. เอ๋อกินไปเลย.. เอาล่ะ โม้มาเยอะแล้ว เรามาดูข้อสอบที่ออกในเทอม ซ่อมนี้กัน ---

[narongyu]

---------> ก่อนอื่นมาดูเกณฑ์การให้คะแนนกันก่อน.. เราต้องทำข้อสอบอย่างน้อยให้ได้ 3 ข้อจาก 4 ข้อ.. และแต่ละข้อนั้นห้ามผิดเล็กๆ น้อยๆ เกิน 10 จุดนะจ๊ะ..(พี่เขียนผิดไปเยอะเลยอะ..T_T) นอกจากนี้คนที่เข้าเรียนและส่งการบ้านอาจจะมีคะแนนพิศวาสจากอาจารย์อยู่บ้าง นิดนึง.. ย้ำ!! นิดนึงจริงๆ.. ส่วนมากอาจารย์จะนำคะแนนการบ้านมาช่วยเวลาที่คะแนนมันคาบเกี่ยว เช่น 58 59 ส่วน.. พวกที่คาบเกี่ยว 78 79 อย่างหวังนะจ๊ะ ไม่ดีๆ.. พวกนี้ปล่อยมันไป อย่าไปพูดกะมัน..(ล้อเล่น..นะ) เกณฑ์คะแนนพอสรุปได้ดังนี้...

F—P—P—P = P ^^”
P—F—P—F = F !
G—F—F—G = F !!
G—G—P—P = P มั้ง.. ไม่แน่ใจนะ เพื่อนบอกมาอีกทีจ้า.. แต่อย่าไปหวังมากเป็นดี..
G—G—G—P = G จ้า.. แบนมัน!!
G—G—G—G แต่เอาดินสอเขียน = F !!!!! นะจ๊ะ..

[narongyu]

ข้อสอบแบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ คือ...
---------> การเขียนเชิงบรรยาย หรือ Narrative writing แบ่งเป็นการเขียนแบบจำกัดความ หรือ Control writing 1 ข้อ และการเขียนแบบอิสระ หรือ Free writing การเขียนแบบบรรยาย ขอให้น้องๆ นึกถึงนิทานนะ.. คิดซะว่าเรากำลังมาเล่านิทาน เพราะการเขียนในลักษณะนี้ คือการเขียนเรื่องที่แต่งขึ้นมาจากจินตนาการ เรื่องที่ไม่มีอยู่จริง หรือการเขียนบอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่ผ่านมาแล้ว.. ดังนั้น เราต้องเขียนให้อยู่ในรูปอดีตกาล (Past tense) แต่ก็มีอยู่บ้างที่การบรรยายบางอย่าง ต้องอาศัยประโยครูปอื่นๆ มาใช้บรรยาย เช่น ประโยครูปปัจจุบันกาล (Present tense) เมื่อเหตุการณ์หรือความรู้สึกในเหตุการณ์นั้นๆ ยังคงเป็นจริง และฝังใจเราจนทุกวันนี้..

[narongyu]

---------> การเขียนเชิงพรรณนา หรือ Descriptive writing แบ่งเป็น 2 ข้อ ลักษณะเดียวกันกับการเขียนบรรยาย การเขียนแบบนี้คือการเขียนอธิบาย หรือพรรณนา เพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือเห็นภาพที่ชัดเจน ดังนั้นจึงต้องเขียนในรูปปัจจุบันกาล และเน้นการใช้คำ คุณศัพท์ หรือ adjective ให้มากเข้าไว้ เพราะมันจะช่วยให้ผู้อ่านได้รายละเอียดมากขึ้น.. แต่การเขียนเชิงพรรณนาบางครั้งเราสามารถนำประโยคแบบอื่นมาใช้ได้ด้วยนอกจาก Present tense เช่น ประโยครูปอดีตกาล (Past tense) ใช้เมื่อต้องการจะอธิบายลักษณะของสิ่งของว่ามีขึ้น หรือถูกสร้างในอดีต ตัวอย่างเช่น It was built in.. มันถูกสร้างขึ้นที่.. เป็นต้น..

[narongyu]

---------> เนื่องจากพี่ทำงานเกี่ยวกับเอกสาร และการติดต่อประสานงาน จึงเข้าใจดีว่าการเขียนแต่ละครั้ง มีลักษณะที่เป็นสากล และแสดงความสุภาพกำหนดเอาไว้.. ซึ่งพี่เองก็นำมาใช้ในการสอบด้วย.. ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอาจารย์จะตัดคะแนนหรือไม่.. การเขียนงานแต่ละอย่าง เราไม่ควรลืมเรื่องต่อไปนี้..

[narongyu]

อุปกรณ์ที่ควรเตรียมเข้าสอบวิชานี้...
- ปากกาน้ำเงินหรือดำ เอาไว้เขียนอนุเฉท - ดินสอ เอาไว้ร่าง - ปากกาแดง เอาไว้ขีดเส้น - ยางลบ เอาไว้.... – ไม้บรรทัด เอาไว้... – ปากกาลบคำผิด เอาไว้... (.... คือ ควรอนุมานเอง..)
1. ควรเขียนด้วยปากกาสีดำ หรือน้ำเงินเท่านั้น อย่าได้เขียนด้วยดินสอเด็ดขาด..!! เพราะมันแสดงถึงการไม่ให้เกียจ.. ไม่สุภาพ.. และที่เลวร้ายที่สุด อาจารย์จะปรับตกทันทีนะจ๊ะ..
2. สำหรับคนที่ร่างด้วยดินสอแล้วค่อยเติมปากกาทีหลัง ระวังนะ.. จะทำข้อสอบไม่ทัน พี่เห็นมานักต่อนักเลย.. หรือถ้าลบไม่ทันก็ระวังล่ะ อาจารย์จะถือว่าใช้ดินสอเขียนนะ.. ต่อให้เรา ปล. อธิบายขอความเห็นใจสุดชีวีแล้วก็ตาม..
3. ก่อนเขียน ขอให้ขีดเส้นคั่นหน้ากระดาษด้วยปากกาทุกครั้ง จะให้ดีขอให้ใช้ปากกาที่มีสีต่างจากปากกาที่เราใช้เขียน ขอแนะนำให้ใช้สีแดงนะจ๊ะ.. ไม่งั้นเค้าจะมีมาขายทำไมสองสามสี จริงมะ.. แล้วอย่าลืมขีดเส้นใต้ประโยคใจความหลัก และหัวข้อเรื่อง (กรณีไม่ได้ขีดไว้) ด้วยล่ะ สำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...
และข้อสุดท้าย....
4. พยายามหายใจลึกๆ ตอนที่กรรมการประกาศว่า “เชิญกรรมการแจกข้อสอบได้แล้ว.. เค่อะ.. เหอะ เหอะ..” เพื่อทำสมาธิก่อนสอบสักนิดก็ยังดี เผื่อเวลาเปิดหน้าแรกของข้อสอบออกแล้วอาจจะช็อค..จะได้มีสติ..!! มืออย่าสั่น อย่านั่งเอ๋อ จดจ่อในสิ่งที่ทำ เพราะถ้าจิตใจว้าวุ่นมาก.. เขียนผิดแล้วลบ ผิดแล้วลบ.. กระดาษข้อสอบเราจะเน่าเอา.. ห้ามใช้ปากกาขีดฆ่าแล้วเขียนคำต่อไปข้างๆ.. เพราะมันแสดงถึงความมักง่าย.. มิฉะนั้นแล้ว.. พอข้อสอบไปถึงมืออาจารย์..ท่านจะตรวจด้วยความรู้สึกเซ็งเอาได้นะจ๊ะ..

[narongyu]

---------> นี่คือตัวอย่างข้อสอบซ่อมเทอมนี้ (ซ่อม 2/52 และ Summer/52) แล้วก็คำตอบที่พี่เขียนไป ช่วยๆ กันจับผิดหน่อยนะ.. เพราะเขียนแบบงงๆ.. คิดเห็นยังไงบอกกันด้วยเด้อ.. ตัวที่ขีดคือประโยคที่พี่คิดว่าผิดแน่ๆ ส่วนในวงเล็บคือประโยคที่ควรจะเป็น..

[narongyu]

1. Narrative Writing : เป็นการ์ตูนผู้ชายคนนึง เขากำลังจะมีพรีเซนต์งานที่บริษัท เขาอยากเตรียมการให้ดีจึงำทยสนำไปขอให้ภรรยา และลูกสองคนช่วยวิจารณ์ แต่พ่อเพิ่งจะเริ่มวิจารณ์ ทุกคนก็เริ่มบอกว่าตัวเองมีธุระ.. จึงค่อยๆ หายไปทีละคนๆ จนเหลือแต่สุนัขนอนฟังอยู่ตัวเดียว.. ข้อนี้พี่เอกเขียนอย่างนี้ครับ..

[narongyu]

Tony’s Disappointment

On Sunday, Tony felt disappointed when he wanted to know the(a) feedback on his coming up presentation. Tony, a company employee, had a presentation on the next day ;thus, he asked his wife, daughter and son to give him some feedback on his presentation. When everything were(was) ready, he started to say. As he was saying only 2 or 3 sentences, his daughter apologetically(apologetically) said that she was about to go out with her friends. After her daughter leaving, he started what he wanted. When he started the presentation, his son abruptly said that he would go out to see his girlfriend and walked out the door. Then, he repeated the script, his wife said that she needed to do her job. Next, Tony sighed in disappointment and looked at his barking dog, the only word he could say – “AHEM!”. Finally, being at the end of one’s(his) rope, he went to asked his neibour(neighbor) the same question as he did to his wife, daughter and son. In conclusion, It(it) is(was) a very disappointing day for him and he was unsure that he would did(do) it well on the presentation.

[narongyu]

แปลจ้า..
ในวันอาทิตย์ โทนี่รู้สึกผิดหวังมาก เมื่อเขาต้องการจะรู้คำวิจารณ์การพรีเซ็นต์ที่กำลังจะมาถึง โทนี่ ลูกจ้างบริษัท มีพรีเซ็นต์งานที่บริษัทในวันถัดไป เขาจึงไปขอให้ภรรยา ลูกสาว และลูกชายช่วยวิจารณ์หน่อย เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เขาเริ่มต้นพูด ขณะที่เขากำลังพูดได้สองสามประโยค ลูกสาวของเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษว่าจะออกไปข้างนอกกับเพื่อน พอลูกสาวไปแล้ว เขาก็เริ่มต่อ พ่อเริ่มไปได้ อยู่ดีๆ ลูกชายเขาก็พูดขึ้นว่าจะออกไปหาแฟนแล้วก็เดินออกประตูไป ต่อมาโทนี่พูดทวนสคริปท์ แล้วเมียเขาบอกว่าต้องไปทำงานของเธอแล้ว และต่อมาโทนี่ก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง มองไปที่สุนัขที่กำลังเห่าของเขา พูดออกอยู่คำเดียว “อะแฮ่ม” ท้ายที่สุดเมื่อหมดทางเลือก เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากบ้านแบบเดียวกับที่เขาขอภรรยา ลูกสาวและลูกชาย โดยสรุป มันเป็นวันที่น่าผิดหวังอย่างแรงสำหรับเขา และเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ดีหรือเปล่าในการพรีเซนต์

* จะเห็นว่าพี่เอกเขียนคำศัพท์ผิดอย่างไม่น่าให้อภัยหลายคำเชียว.. T_T มีผิดตรงไหนอีก ช่วยกันซ้ำเติมหน่อยนะจ๊ะ..

[narongyu]

2. Descriptive writing : มีรูปรถคล้ายๆ รถบัส (มันคือรถรางจ๊ะ) วิ่งบนรางเข้าในเมือง มีผู้โดยสารนั่งและยืนยื่นตัวออกมานอกรถ.. พี่เอกเขียนอย่างนี้ครับ..

[narongyu]

The TramCar

A tram car was rarely found nowadays. However, it looks very classic in design and consumes less fuel as well as its released pollution. It was first built in Europe and distributed to many countries including Thailand. Its body, about 7 metres(meters) long, 2 metres(meters) high and 2and a half metres(meters) wide, contains about 25 seats and can transport about 30-40 passengers including standees. It is made of wooden materials and aluminium,so it looks very classic as if it runs from the old time to the present day. Furthermore, according to its structure, passengers can be sure that it is very safe to travel with. Additionally, it consumes and releases less fuel and pollution;thus, it can help reducing the global warming now. In conclusion, although the tram car looks old-fashion(fashioned), but it is very good and worthwhile to travel with.

*ข้อนี้พี่เอกใช้เวลาทำนานมากๆ.. เขียนผิดไปเยอะเลยอะ.. แปลเอาเองนะจ๊ะ.. คิดว่าข้อนี้น่าจะตก.. T_T
[center]

[narongyu]

3. Narrative writing: เป็นการเขียนอิสระ มีสามหัวข้อให้เลือกคือ..
- write about the hard time you have to help your relative เขียนถึงช่วงเวลาอันแสนลำบากที่ได้ช่วยเหลือญาติ (จำผิดรึป่าวนะ.. ผิดโทษทีนะจ๊ะ..)
- write about someone who gets lost in a foreign city เขียนเรื่องใครสักคนที่หลงทางในเมืองต่างแดน
- write a short impossible fantasy story เขียนเรื่องสั้นเกี่ยวกับเรื่องแฟนตาซีที่เป็นไปไม่ได้
*ข้อนี้พี่เอกเลือก write about someone who gets lost in a foreign city

[narongyu]

The Day Ake Got Lost

Ake felt frightened when he got lost in his trip to a foreign city in March. It was very late in the afternoon, when Ake was enthusiastic about beginning an explore around Pak Say city in Laos. As soon as he first stepped in the city, he found that this city was surrounded by a very thick forest and ruined buildings. Awhile after, Ake took a walk to take some photos. While he was wandering deeper, he found that the area was covered with numberless trees and no sign of any other living things a round. Thus, he decided to walked(walk) back. However, the further he moved, the further he felt unfamiliar with the surroundings around. The sky was getting darker, under a big tree sat a man whose body trembled with both fear and hunger, Ake came to accept that he was completely lost and started to cry. Suddenly, a voice of someone came along with the wind, without hesitation, he rushed hurrily(hurriedly) to the voice and found a group of tourists. Finally, he run(ran) to them and went home safely. In conclusion, his trip to the foreign country was unexpected and frightened, never again he would like to face any situations(situation) like that.

*ข้อ นี้พี่เอกแก้เยอะและบ่อยมาก กระดาษแทบทะลุ เลอะด้วยอะ.. เวลาก็จะหมดอีก.. ไม่รู้อาจารย์จะหักคะแนนตรงนี้เท่าไร.. ผิดถูกยังไง วิจารณ์กันหน่อยนะจ๊ะ น้องๆ ทั้งหลาย..

[narongyu]

4. Descriptive writing: เขียนอิสระข้อสุดท้ายนี้ มีสามข้อให้เลือก..
- ข้อนี้จำไม่ได้ ใครจำได้เอามาบอกกันหน่อยนะ..
- describe a person at the age of 10, 30 and 50 ข้อนี้พี่สับสนมากครับว่าโจทย์มันแปลว่าอะไร.. นั่งคิดอยู่นานเวลาก็จะหมดอีก พี่แปลออกมาสองแบบอะคือ แบบแรกให้อธิบายบุคคล 1 คน ที่มีอายุ 10 30 และ 50 ปี ส่วนอีกแบบคือ ให้เขียนอธิบายบุคคล 1 คน ตอนที่เขามีอายุ 10 30 และ 50 ปี สับสนมากๆ ครับ แต่ก็เลือกทำข้อนี้ไป.. เพราะข้ออื่นหมดปัญญาคิด เวลาเหลือ 20 นาทีเองมั้ง..
- My perfect five-year-old child

*ในที่สุดก็เลือกแปลว่า อธิบายคนที่มีอายุ 50 ข้อนี้พี่เอกเขียนแบบนี้ครับ.. เนื่องจากเพิ่งผ่านวันแม่ เลยตั้งหัวข้อว่า..

[geeboxo]

อันนี้ descriptive ใช่มั้ยจ๊ะ?
เจ๋งๆ
ขอบคุณมากค้าบบบบ

[narongyu]

My Mother

My mother is my beloved person; furthermore, I respect her deeply. My mother, six-feet-three and one hundred-and-ten-pound woman who in her mid-fifties, possesses two big shiny eyes, long eyelashes, long hair with blond tips as if bleached by the sun. According to her age, she is consider an old woman; however, she still looks young. As a Buddhist, she frequently goes to the temple to make a meditation; beside, she often helps the injured animals by taking back home for medication. Furthermore, she gets along well with the villagers and does things for them without expectation of anything in return. In conclusion, my fifty-year-old mother who gives me love life and education to me is very beautiful and kind; thus, I respect her undoubtedly.

*ข้อนี้พี่เอกเขียนแบบไม่ได้กลับมาตรวจทานเลย เพราะเจ้าหน้าที่จ้องตาเขม็งจะพรากข้อสอบของพี่ไปจากอก.. T_T ไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า.. แต่ยังไงซะ.. พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนสอบผ่านวิชามารเล่มนี้ไปให้ได้นะจ๊ะ.. พี่เองก็ทำเต็มที่แล้วล่ะ.. อย่าลืมเอาใจช่วยพี่ด้วยนะ..

[narongyu]

ใครมีปัญหาอะไร แอดมาคุยกันได้นะที่ [You must be registered and logged in to see this link.] หรือ msn : [You must be registered and logged in to see this link.]
!!!!! แต่ละย่อหน้าพี่เอกลืมวรรคอะ.. อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะเด็กๆ ให้ วรรค 1 ย่อหน้ากันด้วยนะ... ในตอนเริ่มเรื่องอะ... และ 1 อนุเฉท ห้ามมีเกิน 1 ย่อหน้า เพราะมันจะเป็นความเรียง อาจารย์ปรับตกเลยนะ..

[geeboxo]

เอาใจช่วยเต็มที่จ้าาา
ขอบคุณสำหรับแนวทาง
สอบวันพฤหัสนี่แล้ว T_T หวั่นใจหวิว

[geeboxo]

Tony’s Disappointment

On Sunday, Tony felt disappointed when he wanted to know the(a) feedback on his coming up presentation. Tony, a company employee, had a presentation on the next day ;thus, he asked his wife, daughter and son to give him some feedback on his presentation. When everything were(was) ready, he started to say. As he was saying only 2 or 3 sentences, his daughter apologetically(apologetically) said that she was about to go out with her friends. After her daughter leaving, he started what he wanted. When he started the presentation, his son abruptly said that he would go out to see his girlfriend and walked out the door. Then, he repeated the script, his wife said that she needed to do her job. Next, Tony sighed in disappointment and looked at his barking dog, the only word he could say – “AHEM!”. Finally, being at the end of one’s(his) rope, he went to asked his neibour(neighbor) the same question as he did to his wife, daughter and son. In conclusion, It(it) is(was) a very disappointing day for him and he was unsure that he would did(do) it well on the presentation.

give him some feedback on his presentation.
เหมือนคุ้นๆว่าจะเป็น to give feed back about something. นะจ๊ะลองเช็คดูอีกทีก็ได้

After her daughter leaving
อันนี้น่าจะเป็น his daughter's leaving รึป่าวอ่ะคะ หรือว่า after his daughter had left
คือน้องไม่แต่ใจว่าพี่เอกจะใช้เป็น gerund หรือยังไงอ่ะค่ะ


ช่วยๆกันดูเนอะ

[geeboxo]

My Mother

My mother is my beloved person; furthermore, I respect her deeply. My mother, six-feet-three and one hundred-and-ten-pound woman who in her mid-fifties, possesses two big shiny eyes, long eyelashes, long hair with blond tips as if bleached by the sun. According to her age, she is consider an old woman; however, she still looks young. As a Buddhist, she frequently goes to the temple to make a meditation; beside, she often helps the injured animals by taking back home for medication. Furthermore, she gets along well with the villagers and does things for them without expectation of anything in return. In conclusion, my fifty-year-old mother who gives me love life and education to me is very beautiful and kind; thus, I respect her undoubtedly.

*ข้อนี้พี่เอกเขียนแบบไม่ได้กลับมาตรวจทานเลย เพราะเจ้าหน้าที่จ้องตาเขม็งจะพรากข้อสอบของพี่ไปจากอก.. T_T ไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า.. แต่ยังไงซะ.. พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนสอบผ่านวิชามารเล่มนี้ไปให้ได้นะจ๊ะ.. พี่เองก็ทำเต็มที่แล้วล่ะ.. อย่าลืมเอาใจช่วยพี่ด้วยนะ..

สู้ๆจ้าาาา

[ALONE]

ขอบคุณพี่เอกและขอบคุณคุณ[You must be registered and logged in to see this link.] มากๆเลยค่ะ

[Napha]

Thank you a lot.